
MIT พัฒนาเทคโนโลยีชิป 3D รุ่นใหม่ ใช้ทรานซิสเตอร์ GaN เสริมพลังให้ชิปซิลิคอน
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2025 สถาบัน MIT ได้ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของวงการอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการสร้างชิป 3D โดยใช้ทรานซิสเตอร์ GaN (Gallium Nitride) ร่วมกับซิลิคอน ซึ่งจะช่วยให้สมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทำงานได้เร็วขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และผลิตได้ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมมาก
GaN คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?
GaN หรือ Gallium Nitride เป็นวัสดุกึ่งตัวนำที่มีคุณสมบัติดีกว่าซิลิคอนในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านความเร็วในการส่งสัญญาณและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แต่ที่ผ่านมาการนำ GaN มาใช้กับชิปนั้นมีต้นทุนสูง เพราะต้องใช้เวเฟอร์ GaN ทั้งแผ่นประกบกับชิปซิลิคอน ทำให้ไม่เหมาะกับการผลิตในระดับอุตสาหกรรมสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สมาร์ตโฟน
วิธีใหม่ของ MIT: ใช้แค่ทรานซิสเตอร์ GaN ชิ้นเล็ก ไม่ต้องใช้เวเฟอร์ทั้งแผ่น
MIT แก้ปัญหานี้ด้วยการผลิตทรานซิสเตอร์ GaN ขนาดเล็กมาก เรียกว่า “ไดเลต” (dielets) ที่มีขนาดเพียง 240 x 410 ไมครอน แล้วนำมาประกบกับชิปซิลิคอนด้วยเทคนิคพิเศษที่ใช้ “เสาทองแดง” (Copper Pillars) ยึดติดกันแบบเย็น (Low-temperature copper-to-copper bonding)
ข้อดีของวิธีนี้คือ:
- ต้นทุนถูกลงมาก เพราะไม่ต้องใช้แผ่น GaN ทั้งแผ่น
- การนำไฟฟ้าดีกว่าเดิม จากการใช้ทองแดงแทนทองคำ
- เข้ากันได้กับการผลิตในโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ทั่วไป
ทดสอบจริงแล้ว: ใช้งานได้ในสมาร์ตโฟน แรงขึ้น-ประหยัดไฟขึ้น
ทีม MIT ได้ใช้เทคนิคนี้สร้างชิปขยายสัญญาณ (Power Amplifier) ที่สามารถให้สัญญาณแรงกว่าชิปซิลิคอนทั่วไปที่ใช้อยู่ในสมาร์ตโฟนตอนนี้ และยังใช้พลังงานน้อยลงอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ในงานด้านการสื่อสารไร้สาย เช่น 5G, 6G และ IoT
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ GaN ยังทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิต่ำ ทำให้มีโอกาสถูกนำไปใช้ใน คอมพิวเตอร์ควอนตัม อีกด้วย
ถ้าใช้เชิงพาณิชย์ได้จริง อนาคตมือถืออาจก้าวกระโดด!
หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรม สมาร์ตโฟนในอนาคตอาจมีความสามารถประมวลผลได้ดีขึ้นมาก รองรับการใช้งาน AI บนอุปกรณ์ (On-device AI) ได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น ไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อคลาวด์เสมอไป
แม้ในตอนนี้สมาร์ตโฟนระดับเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S25 Ultra ยังเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีชิปประมวลผล AI ในตัวที่ดีที่สุด แต่ในอนาคตอาจมีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี 3D ชิปจาก MIT นี้ แล้วเปิดประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เคยมีมาก่อน
บทสรุป:
การพัฒนาเทคโนโลยี 3D ชิปร่วมกับ GaN ของ MIT อาจเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้โลกของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนเข้าสู่ยุคใหม่ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ทั้งในด้านความเร็ว การประหยัดพลังงาน และการรองรับฟีเจอร์ขั้นสูง โดยเฉพาะ AI บนอุปกรณ์ และระบบสื่อสารยุคใหม่อย่าง 6G
ที่มา: notebookcheck
